วิเคราะห์กลยุทธ์
K-Merchant on Mobile ต้องถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ธนาคารนำมาใช้ถูกที่ถูกเวลามาก
สิ่งหนึ่งเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิตอลแบงกิ้ง
และอีกจุดหนึ่งคือสามารถขยายตลาดเครื่องรูดบัตรได้รวดเร็ว เพราะปัจจุบัน
ร้านค้าต่างๆล้วนมีอุปกรณ์เหล่านี้อยู่ประจำร้านอยู่แล้ว เป็นการนำเอา โอกาส
(Opportunity) ของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง มาร่วมกับจุดแข็ง (Strange)
คือความแข็งแกร่งของความเป็นผู้นำด้านดิจิตอลแบงกิ้ง และ ปิดจุดอ่อน
(Weakness)ในเรื่องข้อจำกัดของการใช้เครื่องMobile EDC
ที่ต้นทุนสูง
mPOS (Mobile
Point-of-Sale) เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อที่จะนำมาร่วมกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่รองรับการใช้งานเพื่อรูดชำระค่าบริการ/สินค้าด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
Visa / MasterCard ของทุกธนาคารเสมือนเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ซึ่งเมื่อทำรายการรูดบัตรแล้ว
ผู้ถือบัตรต้องลงลายมือชื่อบนหน้าจอมือถือพร้อมใส่อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
โดยธนาคารจะทำการส่งหลักฐานการใช้บัตรให้ลูกค้าผู้ถือบัตรแทนการพิมพ์สลิปในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริม
Cash Less Payment และ Paperless Slip อีกด้วย
สำหรับร้านค้าที่สมัครเป็นสมาชิกของธนาคาร จะได้รับคู่มือการใช้บริการและอุปกรณ์
mPOS แล้ว Down Load Application ที่รองรับ App Store และ Androids บนสมาร์ทโฟน
จากนั้นก็นำ mPOS
มาต่อเข้ากับที่เสียบหูฟังเพื่อเชื่อมต่อระบบสัญญาณและใส่รหัสที่ได้รับจากธนาคาร
เพื่อเปิดใช้บริการร้านค้ารับบัตรบนสมาร์ทโฟน (K-Merchant on Mobile)
ดังแผนภาพจำลอง
ขั้นตอนการให้บริการ K-Merchant on Mobile |
คุณกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า
ธนาคารร่วมกับสายการบินนกแอร์
เปิดตัวนวัตกรรมการชำระเงินรูปแบบใหม่ล่าสุดด้วยบริการ “K-Merchant on Mobile"
ให้จองตั๋วและรูดบัตรฯ
จ่ายค่าโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้ทันทีทุกที่ทุกเวลา
ตั้งเป้าปีหน้าเพิ่มเครื่องให้บริการได้กว่า 20,000 เครื่อง
พร้อมขยายบริการไปยังร้านค้ารายย่อยประเภทต่าง ๆ ในอนาคต
ธนาคารเปิดตัวบริการร้านค้ารับบัตรบนสมาร์ทโฟน(K-Merchant on
Mobile)ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการรูดชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้ทันทีผ่านแอพพลิเคชั่นที่ธนาคารร่วมกับ
SwiffPay
บริษัทชั้นนำจากประเทศสิงคโปร์พัฒนาขึ้นและนำมาใช้บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
ควบคู่กับอุปกรณ์เชื่อมต่อ mPOS(Mobile Point-of-Sale)
ที่มีมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยขั้นสูง
อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับร้านค้าสมาชิกของธนาคารกสิกรไทยให้สามารถรับชำระค่าสินค้าและบริการต่าง
ๆ ด้วยบัตร Visa/MasterCard ของลูกค้าได้ทุกธนาคาร ปัจจุบัน
ธนาคารมีสมาชิกร้านค้ารับบัตรประมาณ 90,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
และคาดว่าจะมียอดรับบัตรทั้งสิ้น 375,000 ล้านบาท โตเพิ่ม 28% จากปี 2554
เป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาด ด้วยส่วนแบ่งที่ 32%
สำหรับบริการร้านค้ารับบัตรบนสมาร์ทโฟน (K-Merchant on Mobile)
จะเริ่มให้บริการช่วงแรกที่ 1,000 เครื่อง โดยนอกจากสายการบินนกแอร์แล้ว
ยังใช้ในกลุ่มธุรกิจประกันภัย ร้านอุปกรณ์มือถือ ธุรกิจขายตรง
ร้านค้า/ร้านอาหารที่มีบริการจัดส่ง (Delivery)
โดยในปีหน้าจะขยายการให้บริการเพิ่มเป็น 20,000 เครื่อง สำหรับร้านค้ารายย่อยทั่วไป
เช่น ร้านดอกไม้ ร้านกาแฟ ร้านขายเสื้อผ้า
ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับบัตรและขายสินค้า/บริการให้กับสมาชิกร้านค้ารับบัตรได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ด้านนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ กล่าวว่า
สายการบินนกแอร์มีนโยบายที่จะเพิ่มช่องทางการชำระเงินที่สะดวกสบายให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้เพิ่มบริการใหม่ ๆ ให้ลูกค้าได้อัพเกรดชีวิตที่ง่ายและรวดเร็ว
สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน
โดยในปีนี้ทางนกแอร์ได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทยซึ่งมีแนวคิดและการบริการที่ทันสมัย
เปิดบริการจองตั๋วและรับชำระค่าตั๋วโดยสารด้วยบัตรเครดิต ภายใต้คอนเซ็ปต์
“Nok X จองสะดวก บินสบาย ด้วย K-Merchant on
Mobile" ซึ่งสายการบินนกแอร์นับเป็นสายการบินแรกในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยี
mPOS
มาใช้ในการจองและชำระเงินตั๋วโดยสารของลูกค้าให้สามารถใช้ได้กับบัตรเครดิตของทุกธนาคารได้ตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป